ทุกๆครั้งที่ทำค่าย หรือมีการลงชุมชนในพื้นที่ที่ห่างไกลความเจริญ ทำให้ดิฉันได้เรียนรู้ความยากลำบากของชาวบ้าน
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการใช้สารเคมีปลูกผักเพื่อการค้า ปัญหาการใช้ยาชุดเพื่อลดปวดเมื่อย
ปัญหาอันตรายจากการซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ขาดความรู้ของชาวบ้าน ปัญหาด้านการศึกษาของเด็กผู้ยากไร้
โครงการให้ความรู้เรื่องลูกน้ำยุงลายและแจกทรายอะเบส โครงการสนามเด็กเล่นสร้างเสริมพัฒนาการเพื่อน้อง
โครงการยืดเหยียดกล้ามเนื้อคลายปวดเมื่อยแบบวิถีไทย ลดการใช้ยาชุด ดิฉันมีความยินดีที่ทุกโครงการมีชาวบ้าน
มาเข้าโครงการมากมาย มีการรับฟังด้วยความสนใจ
จากการที่ดิฉันได้มีโอกาสไปเข้าร่วม นำเสนอนวัตกรรมในงาน “สิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมเพื่อชุมชน”
ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี เป็นผลงานนวัตกรรมที่มีชื่อว่า “สายเข็มขัดรักสะอาด คาดสะดวก” ที่ใช้กับเด็กทารก และเด็กวัยก่อนเรียนที่มีปัญหา รับประทานอาหารทางปากไม่ได้ ต้องทำการผ่าตัดเพื่อใส่สายให้อาหารทางหน้าท้อง เข็มขัดนี้จะช่วยรักษาความสะอาดแผลที่ใส่สายให้อาหารทางหน้าท้อง
เก็บรัดสายให้อาหารทางหน้าท้องไม่ให้ดึงรั้ง ลดอุบัติเหตุสายหลุด ต้องเข้าไปผ่าตัดเพื่อใส่สายใหม่ เมื่อผลงานได้มีการ เผยแพร่ทางโซเซียลมีเดีย ทำให้ได้รับความสนใจกลุ่มของพ่อแม่ที่ลูกมีปัญหานี้ มีตัวแทนพ่อแม่ประสานงานมายังอาจารย์ ดร.จุฬาภรณ์ ตั้งภักดี ร่วมกับคณะพยาบาลศาสตร์ให้ทุนสนับสนุน ขอรับบริจาคเข็มขัดนี้มายังคุณแม่ของดิฉัน ซึ่่งคุณแม่ก็ได้กรุณาเสนอเป็นคนช่วยตัดเย็บเข็มขัด รักสะอาด คาดสะดวก นี้ด้วยตัวเองรวมถึงได้มีการสร้างโมเดลต้นแบบ ส่งไปให้กับรพ.ศรีนครินทร์ และรพ.ศูนย์ขอนแก่น ได้นำไปเป็นต้นแบบในการตัดเย็บไว้ใช้แก่เด็กป่วยในรพ.อีกด้วย
อีกโอกาสหนึ่งที่ภาคภูมิใจ คือ ดิฉันผ่านเข้ารอบ ในการประกวดการนำเสนอเรื่องวิทยาศาสตร์ในองค์ความรู้สาขา
คณะวิชาที่สังกัดโครงการ Frame Lab โดยในรอบนี้มีผู้เข้ารอบจากการคัดเลือกทั่วประเทศจำนวน 20 คนสุดท้ายในรอบ
National audirion โดยการนำเสนอจะเป็นการนำเสนอโดยใช้ภาษาอังกฤษ เล่าเรื่องให้มีความน่าสนใจ ดิฉันจึงได้เล่าเรื่อง
ประสบการณ์ในการลดความปวดในผู้ป่วยมะเร็งซึ่งเป็นความปวดเรื้อรังในชื่อเรื่อง “Does pain is control or uncontrolled”
การนำเสนอในครั้งนี้ได้รับความสนใจ ทั้งจากนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ในสาขาต่างๆ โดยเฉพาะด้านระบบประสาท ถือว่า
เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ในเวทีระดับประเทศ ที่เป็นประสบการณ์ที่มีค่ามากๆในชีวิต ได้ถ่ายทอดความรู้ของสาขาวิชาชีพออกมา
ในแนววิทยาศาสตร์ เผยแพร่ความรู้ทางการพยาบาลให้เป็นเรื่องง่ายสู่สาธารณชน
สิ่งที่ดิฉันได้รับจากการแข่งขันในครั้งนี้ไม่ใช่ชัยชนะ แต่เป็นการได้รับโอกาสในการโชว์ ความสามารถในทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ
ทักษะการเชื่อมโยงองค์ความรู้ และเล่าเรื่องต่อหน้าสาธารณชน ทักษะเหล่านี้ดิฉันยังทำได้ในระดับหนึ่ง แต่ตั้งใจว่าจะพัฒนา
ต่อไปให้สามารถทำได้ดีขึ้น
จากทุกๆความทุ่มเทนี้ทำให้ดิฉันได้รับรางวัลนักกิจกรรมดีเด่น ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น นำความภาคภูมิใจมาสู่ดิฉัน
คณะพยาบาลศาสตร์ และครอบครัวของดิฉันด้วย
ทุกครั้งที่เหนื่อยหรือท้อดิฉันมักจะบอกตัวเองเสมอว่า เรามีโอกาสมากกว่าคนอื่นๆ มีกำลังกาย กำลังใจ แม้จะยังขาดกำลังทรัพย์
แต่ด้วยความอนุเคราะห์ของท่าน ทำให้ดิฉันไม่คิดท้อถอยอีกแล้ว และได้แปลงเปลี่ยนมาเป็นพลังใจในการเรียน การทำงานเพื่อคณะ
เพื่อวิชาชีพพยาบาลในอนาคต เท่าที่กำลังนักศึกษาอย่างดิฉันจะทำได้ และส่งต่อความหวังดีแบบนี้ให้กับผู้ที่ด้อยโอกาสเช่นกันใน
อนาคต ดิฉันจะตั้งใจศึกษาเล่าเรียนตลอดจน พัฒนาตนเองเพื่อมาดูแลสุขภาพเพื่อนมนุษย์ หากมีสิ่งใดที่ดิฉันสามารถตอบแทน
หรือช่วยกิจกรรมของคุณแม่น้อยฯได้ ดิฉันยินดีที่จะร่วมมืออย่างสุดกำลัง ขอขอบพระคุณค่ะ
นส.จุฑาทิพย์ ยัดไธสง (น้องแอน)
นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์
ม.ขอนแก่น ชั้นปีที่3
ผู้รับทุนมูลนิธิคุณแม่น้อย จงสถิตย์วัฒนา
1 พฤษภาคม 2560